การสร้างพล้อตนิยายให้ได้สักเรื่องมันจะมีกลยุทธ์ใดบ้างที่จะช่วยนักเขียน มาดูกัน!
1. เริ่มต้นด้วยไอเดียหลัก: นักเขียนมักเริ่มต้นด้วยไอเดียหลักหรือธีมที่ต้องการเล่า จากนั้นพวกเขาจะขยายไอเดียนั้นให้เป็นเรื่องราวที่มีรายละเอียดมากขึ้น
2. สร้างตัวละครที่มีมิติ: ตัวละครที่มีความซับซ้อนและมีพัฒนาการจะช่วยให้เรื่องราวน่าสนใจมากขึ้น นักเขียนมักจะสร้างประวัติและบุคลิกภาพของตัวละครอย่างละเอียด
3. วางโครงเรื่อง: การวางโครงเรื่องช่วยให้นักเขียนมีแผนที่ชัดเจนในการดำเนินเรื่องราว พวกเขามักจะใช้แผนภาพหรือโน้ตเพื่อจัดระเบียบเหตุการณ์สำคัญ
4. สร้างความขัดแย้ง: ความขัดแย้งเป็นสิ่งที่ทำให้เรื่องราวน่าติดตาม นักเขียนมักจะสร้างสถานการณ์ที่ตัวละครต้องเผชิญกับปัญหาหรืออุปสรรค
5. ใช้การบิดพล้อต: การบิดพล้อตหรือการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดสามารถทำให้เรื่องราวน่าตื่นเต้นและน่าสนใจมากขึ้น
6. สร้างจุดพีคและจุดจบที่น่าจดจำ: จุดพีคของเรื่องราวควรเป็นช่วงเวลาที่มีความตื่นเต้นสูงสุด และจุดจบควรเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้อ่านรู้สึกพอใจหรือมีความคิดต่อเนื่อง
7. การใช้การเล่าเรื่องแบบหลายมุมมอง: การเล่าเรื่องจากมุมมองของตัวละครหลายตัวสามารถเพิ่มความลึกและความซับซ้อนให้กับเรื่องราวได้
8. การสร้างโลกที่น่าเชื่อถือ: สำหรับนิยายที่มีองค์ประกอบแฟนตาซีหรือวิทยาศาสตร์ นักเขียนมักจะสร้างโลกที่มีรายละเอียดและกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนเพื่อให้ผู้อ่านรู้สึกว่ามันเป็นจริง
9. การใช้สัญลักษณ์และธีม: สัญลักษณ์และธีมสามารถเพิ่มความหมายและความลึกให้กับเรื่องราว นักเขียนมักจะใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อสื่อสารข้อความหรือความคิดที่ซับซ้อน
10. การสร้างบทสนทนาที่มีชีวิตชีวา: บทสนทนาที่ดีสามารถเผยให้เห็นบุคลิกภาพของตัวละครและขับเคลื่อนเรื่องราวไปข้างหน้า นักเขียนมักจะให้ความสำคัญกับการเขียนบทสนทนาที่เป็นธรรมชาติและน่าสนใจ
11. การใช้การย้อนอดีต: การย้อนอดีตสามารถช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจตัวละครและเหตุการณ์ในอดีตที่มีผลต่อเรื่องราวในปัจจุบัน
12. การสร้างความตึงเครียด: การสร้างความตึงเครียดในเรื่องราวสามารถทำให้ผู้อ่านรู้สึกตื่นเต้นและติดตามเรื่องราว นักเขียนมักจะใช้เทคนิคนี้ในการสร้างสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงสูง
ตัวอย่างนิยายที่ใช้เทคนิคต่าง ๆ ที่กล่าวถึง:
1. การเล่าเรื่องแบบหลายมุมมอง:
- "A Song of Ice and Fire" โดย George R.R. Martin: นิยายชุดนี้ใช้การเล่าเรื่องจากมุมมองของตัวละครหลายตัว ทำให้เรื่องราวมีความซับซ้อนและลึกซึ้ง2. การสร้างโลกที่น่าเชื่อถือ:
- "The Lord of the Rings" โดย J.R.R. Tolkien: โลกแห่ง Middle-earth ถูกสร้างขึ้นอย่างละเอียดและมีประวัติศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ3. การใช้สัญลักษณ์และธีม:
- "The Great Gatsby" โดย F. Scott Fitzgerald: นิยายเรื่องนี้ใช้สัญลักษณ์และธีมเพื่อสื่อสารความหมายที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับความฝันอเมริกันและความเสื่อมโทรมของสังคม4. การสร้างบทสนทนาที่มีชีวิตชีวา:
- "Pride and Prejudice" โดย Jane Austen: บทสนทนาในนิยายเรื่องนี้มีความเป็นธรรมชาติและเผยให้เห็นบุคลิกภาพของตัวละครอย่างชัดเจน5. การใช้การย้อนอดีต:
- "To Kill a Mockingbird" โดย Harper Lee: การย้อนอดีตในนิยายเรื่องนี้ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเหตุการณ์ในอดีตที่มีผลต่อเรื่องราวในปัจจุบัน6. การสร้างความตึงเครียด:
- "The Da Vinci Code" โดย Dan Brown: นิยายเรื่องนี้ใช้เทคนิคการสร้างความตึงเครียดเพื่อให้ผู้อ่านรู้สึกตื่นเต้นและติดตามเรื่องราวเครดิต: จากอินเตอร์เน็ตที่อ่านมา และสอบถามกับ Copilot
🔗รู้จัก “ฉันทลักษณ์กลอนอังกฤษ” ที่ใช้ในงานเขียนของฉัน
🔗 คำนำ (Preface), Introduction และ Foreword ใช้ต่างกันอย่างไรในหนังสือ
หรือดูทั้งหมดที่นี่ >> สาระความรู้
👉📌 https://linktr.ee/maewtaotaofu