Thursday, July 31, 2025

🏹 ถ้าฮ็อกอายส์อยู่ในอเวนเจอร์ องค์หญิงรัชทายาท ก็คือ มือธนูอันดับหนึ่งแห่งราชสำนัก

📖 พิเศษ! ลด 25% ถึง 12 ส.ค. เท่านั้น




🎯 ถ้าคุณคิดว่าฮ็อกอายส์ใน The Avengers คือมือธนูที่แม่นที่สุด…
คุณยังไม่เคยเจอ “องค์หญิงรัชทายาท”


เธอคือธิดาแห่งแคว้นรัตตมธานี ผู้เติบโตมาท่ามกลางศึกสงคราม

ในมือคือคันธนู ที่ไม่ได้มีไว้แค่ป้องกันตัว

แต่ใช้ตัดสินชะตาของบ้านเมือง และของหัวใจตัวเอง


ในวังหลวงที่เต็มไปด้วยกลลวง

ความรักระหว่างหญิงสองคน… จะเป็นแรงผลักดัน หรือเป็นอุปสรรค?

แต่เธอไม่ใช่คนที่จะก้มหัวให้โชคชะตา หรือกฎใดของวังนี้


เพราะเธอคือ…

นักรบผู้เงียบงัน

นักปกครองผู้ชาญฉลาด

และผู้หญิงที่พร้อมจะรัก — แม้รู้ว่ารักนั้นจะต้องแลกกับทุกอย่าง❤️‍🔥


ถ้าคุณชอบนิยายที่มีทั้งพลังหญิง การเมืองเข้มข้น

และความสัมพันธ์ที่ค่อย ๆ ก่อตัวอย่างละเมียดละไม…


แค่บทแรก…คุณจะรู้ว่าเธอไม่ได้แม่นแค่ธนู

แต่ยังยิงทะลุหัวใจผู้อ่านอีกด้วย💘

📖 พิเศษ! ลด 25% ถึง 12 ส.ค. 2568 เท่านั้น

อย่ารอจนลูกธนูดอกสุดท้ายปลิวผ่านไป…🏹

🔗 อ่านเลยตอนนี้  👇


Tuesday, July 29, 2025

(TH/EN) A Day in the Life of a Yuri Author – Part 4 📖 1 วันของนักเขียนนิยายยูริ ตอนที่ 4

Just casually writing Book Two… when Book Three barged in with its cuteness 😘

It’s like falling in love with two people. Welcome to the writer’s version of a love triangle—but make it adorable!

So there I was, fiercely typing away on my second novel. Sweating. Brain fried. Tears nearly falling. I was stuck, okay?
And then… Book Three just waltzed into my mind like a cat burglar. No knock. No warning.
It came at me in the shower, while doing dishes, when I swore I’d finally finish Book Two that day. But every time I got stuck, Book Three showed up grinning.
And it’s so cute. So silly. So squishy.
I found myself smiling like a weirdo at the characters… alone in my office.
(Slightly afraid someone might catch me.)

Then the guilt kicked in. Poor Book Two.
It felt like emotional cheating.
But I swear I love them both!
It’s just… Book Three is tapping at my heart’s door whispering,
“Hi. I’m here.”
Ugh. My weak little heart.

So I did what any decent writer would do:
Jotted down Book Three’s outline, Then marched back to Book Two like a loyal lover trying to make things right.
(And maybe, just maybe, stop feeling like I’m having a fictional affair 😂)

As for the English translation…
I really wanted to translate Book Two, I swear.
But Book Three is already waiting.
Whispering, “Write me. I miss you.”
...Sigh. Okay. I surrender.

Honestly, if we don’t talk about book sales, everything sounds kind of dreamy, right?
But here’s the truth: I’ve been making exactly zero income from my writing every month.

Writers in Thailand have a funny way of saying this — we call it “eating eggs,” which basically means “earning nothing at all.”
So yeah… boiled eggs, fried eggs, eggs with tears — you name it.
Still, I’m a happy newbie writer, living a humble little life with my characters. Even if I’m surviving on salt and dreams. 🥚✨

So if you happen to read my work—any feedback is like an oxygen tank to me.
One comment = ten tons of energy + a hundred new scenes of inspiration.

This little newbie writer will keep writing.
Whether it’s Book Two, Three, or Seventeen 😅
As long as my heart beats for my characters… I’ll keep writing.


✍️รวมบันทึกของนักเขียนยูริผู้(มัก)เขียนไม่ออก
Read more "Yuri Author Diaries"


(TH/EN) 1 วันของนักเขียนนิยายยูริ ตอนที่ 4 📖 A Day in the Life of a Yuri Author – Part 4

เขียนเล่มสองอยู่ดี ๆ เล่มสามก็โผล่มาก่อกวนแบบน่ารัก ๆ 😘



รักพี่เสียดายน้อง นิยายก็เหมือนรักซ้อน (แต่น่ารักมากนะเว้ย) 

วันนึงนะ ตอนกำลังนั่งเขียนนิยายเล่มที่สองด้วยความตั้งใจอันแรงกล้า เหงื่อไหลพราก น้ำตาแทบกระเด็นเพราะสมองตัน…เขียนไม่ออกอ่ะ แหะๆ
แล้วอยู่ดี ๆ “นิยายเล่มสาม” ก็เดินเข้ามาในสมองเหมือนโจรย่องเบา ไม่เรียก ไม่เคาะประตู มาเลยจ้ะ ทั้งยามหลับยามตื่น ตอนได้อาบน้ำ ตอนได้ล้างจาน มันมาโผล่ตอนฉันคิดว่า “โอเค วันนี้จะเขียนเล่มสองต่อให้จบ”
แต่พอเขียนไม่ออกปุ๊บ ไอ้นี่ก็โผล่มาปั๊บ
แล้วคือมันแบบ “น่ารัก หนุบหนิบ บ้าบอคอแตก”
ฉันถึงขั้นแอบอมยิ้มกับตัวละครคนเดียวในห้องทำงาน
(แอบกลัวเพื่อนเห็นอยู่เหมือนกันนะ)

แล้วฉันก็รู้สึก “ผิดกับเล่มสอง” ขึ้นมาเบา ๆ เหมือนจะนอกใจยังไงยังงั้น
แต่มันก็ไม่ได้ไม่รักนะ! ฉันรักทั้งสองเล่ม!
แค่เล่มสามมันจ่ออยู่ตรงประตูหัวใจ…อุ๊ย ใจบาง (บ้า จริงเชียว!)

พอเป็นแบบนี้ฉันก็ต้องรีบจดโครงเรื่องของเล่มสามเอาไว้
แล้วกลับมาทุ่มเทให้เล่มสองแบบคนดีมีศีลธรรม
เพราะฉันตั้งใจจะเขียนให้จบก่อนแล้วจะรีบเปิดประตูรับเล่มสามเข้ามาอย่างเป็นทางการ
(จะได้ไม่รู้สึกผิดแบบมีชู้ในจินตนาการอีกต่อไป5555+ เอ้อ เอาสิ!)

พูดถึงการแปลเป็นฉบับภาษาอังกฤษ…
หากเล่มที่สองเขียนจบจริงๆ คงต้องขอพักก่อน เพราะเล่มสามมารอคิวแล้ว!
ไม่ใช่ว่าไม่อยากแปลนะคะ อยากแปลใจจะขาด
แต่เวลามีจำกัด และไอเดียเล่มสามมันมากระซิบว่า
“พี่คะ เขียนหนูเถอะ หนูคิดถึง…”
เอ้า แพ้อีกแล้วแม่! หัวจิปวดดด

ฟังดูงานยุ่งเนาะ 555+ ก็ถ้าไม่ต้องพูดถึงยอดขายมันก็ดูดีเลยนะ
…ซึ่งก็ต้องขอสารภาพว่า ฉันกินไข่ทุกเดือนค่ะ ไข่ต้มบ้าง ไข่ดาวบ้าง ไข่น้ำ(ตา)บ้าง
แต่ฉันก็เป็นนักเขียนมือใหม่ที่มีความสุขแบบ “พอเพียง”
เพราะได้อยู่กับตัวละคร ได้วิ่งในทุ่งลาเวนเดอร์
(ถึงชีวิตจริงจะนั่งหายใจรวยริน กัดก้อนเกลือกินก็ตาม)

สุดท้ายนี้ ถ้ามีผู้อ่านที่หลงมาอ่านงานของฉัน
ขอแค่คอมเมนต์นิดเดียวก็เหมือนได้ถังออกซิเจนมาเติมชีวิตเลยค่ะ
เพราะฟีดแบ็คหนึ่งครั้ง = กำลังใจสิบตัน + แรงบันดาลใจร้อยตอน

นักเขียนมือใหม่คนนี้จะพยายามเขียนต่อไปให้ดีที่สุด
ไม่ว่าจะมีเล่มที่สอง สาม หรือสิบเจ็ด😅ก็ตาม
ตราบใดที่หัวใจยังเต้นเพราะตัวละคร…ฉันก็จะเขียนต่อไป!


✍️รวมบันทึกของนักเขียนยูริผู้(มัก)เขียนไม่ออก
Read more "Yuri Author Diaries"

Read full article

Saturday, July 26, 2025

(TH/EN) 1 วันของนักเขียนนิยายยูริ ตอนที่ 3 📖 A Day in the Life of a Yuri Author – Part 3

1 วันของนักเขียนนิยายยูริ ตอนที่ 3

“ค่ำคืนที่ฉันกลับมาอ่านสิ่งที่เขียน แล้วร้องไห้เบา ๆ กับมัน”
(The Night I Re-read My Chapter and Cried a Little)

🔗Read & Feel the love

ในระหว่างที่ฉันเขียน “องค์หญิงรัชทายาท” ชีวิตก็ยังคงหมุนต่อในแบบที่มันเป็น—ฉันยังคงทำงานประจำเหมือนคนทั่วไป มีประชุม มีไฟล์ต้องส่ง และมีงานที่รอหลังปีใหม่เหมือนระเบิดลูกใหญ่ที่นับถอยหลังอยู่
While writing "The Crown Princess," my life kept spinning as usual—I still had my day job like everyone else, with meetings, deadlines, and post-holiday work waiting like a ticking time bomb.

ช่วงเวลานั้นเป็นฤดูที่เรียกว่า “หลังคริสต์มาส” ซึ่งหลายคนอาจใช้พักใจ แต่สำหรับบริษัทที่ฉันอยู่ มันคือ สองไตรมาสสุดท้าย และฉันคือทหารที่อยู่แนวหน้า
That period, known as "post-Christmas," might be a time of rest for many—but in my company, it marked the final two quarters, and I was a front-line soldier.

แต่พอตกเย็น ฉันกลับบ้าน ถอดหน้ากากพนักงาน… นักเขียนสาวยูริก็กลับมาสิงร่าง
But in the evening, once home and off the employee mask... the Yuri novelist in me returned.

ฉันเปิดไอแพดเพื่อดูว่าตอนที่เพิ่งลงไป มีใครเมนต์อะไรไหม มีใครรู้สึกกับฉากนั้นบ้างไหม มีใครรักจินดากับองค์ราชินีเหมือนฉันหรือเปล่า
I opened my iPad to check if anyone had commented on my latest chapter. Did anyone feel something from that scene? Did anyone love Jinda and the Queen like I did?

...แต่คอมเมนต์ที่รอก็ไม่มา ใจมันแป้วอยู่นิดหน่อยค่ะ ยอมรับตามตรง
...But the comments I was waiting for didn’t come. My heart sank a little, I admit.

แต่ฉันก็เตือนตัวเองว่า “นี่ไม่ใช่การวิ่งแข่ง” เราไม่ได้เขียนเพื่อแข่งกับใคร... เราเขียนเพราะเรารักสิ่งนี้
But I reminded myself, “This isn’t a race.” I’m not writing to compete… I write because I love it.

แล้วฉันก็เริ่มทำสิ่งที่อันตรายที่สุดสำหรับนักเขียนมือใหม่ “เปิดอ่านนิยายตัวเองตั้งแต่ตอนแรก”
Then I did the most dangerous thing a new writer can do—“I re-read my novel from the very beginning.”

ใช่ค่ะ... แล้วก็ร้องไห้เบา ๆ กับบางฉากที่ตัวเองเขียน
Yes… and I cried a little at some of the scenes I had written.

ไม่ใช่เพราะเศร้า ไม่ใช่เพราะรู้สึกว่ามันดีเหลือเกิน แต่เพราะฉันได้สัมผัสบางความรู้สึกที่ “เป็นความรัก” จริง ๆ
Not because it was sad. Not because it was brilliant. But because I touched something that felt like true “love.”

ฉันไม่ได้เขียนยูริเพราะมันกำลังเป็นกระแส ฉันไม่ได้เขียนเพื่อให้มันหวือหวา แต่ฉันเขียนเพราะ... ความรักของคนสองคน มันคือความรัก ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็ตาม
I didn’t write Yuri because it’s trendy. I didn’t write it for sensationalism. I wrote it because… love between two people is love, no matter the gender.

บางฉาก อย่างตอนที่องค์ราชินีแค่ “เงียบไปหนึ่งอึดใจ” และจินดาก็รับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลัง “อดกลั้นบางอย่างไว้”
Some scenes...like when the Queen paused for just a heartbeat, and Jinda knew she was “holding something back”—

ฉันรู้สึกว่ามันคือความเข้าใจโดยไม่ต้องพูด มันคือการจับมือกันในใจโดยไม่มีคำว่ารัก
I felt it was understanding without words. It was holding hands in the heart without saying ‘I love you.’

ความรู้สึกนั้นมันจริงสำหรับฉัน แม้ในชีวิตจริงฉันจะไม่เคยเดทกับผู้หญิง แต่ความรักแบบนั้น…ฉันเข้าใจมันได้ และฉันเขียนมันด้วยความเคารพ ไม่ใช่เพื่อความแฟนตาซี
That feeling was real to me. Even though I’ve never dated a woman, I understand that kind of love. And I write it with respect—not for fantasy.

คืนนั้น ฉันรู้เลยว่า ถึงจะมีคนอ่านแค่หนึ่งคน คือฉันเอง แต่นิยายเรื่องนี้มี “หัวใจ” จริง ๆ
That night, I realized even if there was just one reader me this novel truly had “a heart.”

และนั่นแหละคือคืนที่ฉัน “กลับมาเชื่อในงานเขียนของตัวเองอีกครั้ง”
And that was the night I “believed in my writing again.”

สุดท้ายนี้... ขอบคุณทุกคนที่เปิดใจอ่าน ที่ไม่มองว่าความรักของผู้หญิงสองคนต้อง “พิสูจน์ตัวเอง” และขอบคุณที่ปล่อยให้ฉันเขียน...แม้จะไม่มีคำว่า “เพอร์เฟกต์” แต่มันคือความรักที่เขียนด้วยใจจริง 🩷
Finally… thank you to everyone who reads with an open heart. Who doesn’t think love between two women needs to “prove itself.” Thank you for letting me write… even if it’s not “perfect,” it’s love written with true intent. 🩷


✍️อ่านตอนใหม่: เขียนเล่มสองอยู่ดี ๆ เล่มสามก็โผล่มาก่อกวนแบบน่ารัก ๆ
Read Part 4: Just casually writing Book Two… when Book Three barged in with its cuteness

✍️รวมบันทึกของนักเขียนยูริผู้(มัก)เขียนไม่ออก
Read more "Yuri Author Diaries"

✍️อ่านต่อ: เบื้องหลังตัวละคร "ราชินีอิสราวดี"
Behind the Character: Queen Isarawadee

✍️ อ่านต่อ เบื้องหลังตัวละคร “จินดา"
Behind the Character: Lady Jinda

✍️ไปหน้ารวมเบื้องหลังนิยาย
Behind the books

Friday, July 25, 2025

วิธีสมัครขายอีบุ๊คบน Amazon Kindle Direct Publishing (KDP) สำหรับคนไทย

 วิธีสมัครขายอีบุ๊คบน Amazon Kindle Direct Publishing (KDP) สำหรับคนไทย (ไม่เข้าร่วม Kindle Unlimited) และรับเงินผ่าน บัญชี Wise

🔹 ขั้นตอนที่ 1: สมัครบัญชี Kindle Direct Publishing (KDP)

1. ไปที่เว็บไซต์ KDP → https://kdp.amazon.com/
2. คลิก “Sign up” และเลือก “Create your KDP account”
3. กรอกข้อมูลบัญชี
• Email: ใช้อีเมลที่คุณต้องการสมัคร
• Password: ตั้งรหัสผ่านที่ปลอดภัย
• ชื่อ-นามสกุล: ใส่ชื่อจริงของคุณ
• คลิก “Create your KDP account”
4. ยืนยันบัญชี
• Amazon จะส่งอีเมลยืนยันไปที่อีเมลของคุณ
• คลิกลิงก์ในอีเมลเพื่อยืนยัน
5. ตั้งค่า Two-Step Verification
• ใส่เบอร์โทรศัพท์ของคุณเพื่อรับรหัส OTP
• กรอกรหัส OTP ที่ได้รับทาง SMS



🔹 ขั้นตอนที่ 2: ตั้งค่าข้อมูลผู้เขียน (Getting Paid)

1. ไปที่ “Your Account” (บัญชีของคุณ)
2. ใส่ข้อมูลส่วนตัว
• ประเภทบัญชี: Individual (บุคคลทั่วไป)
• ชื่อเต็ม (Full Name): ชื่อจริงของคุณ (ตรงกับบัญชี Wise)
• ประเทศที่อยู่: Thailand
• ที่อยู่ปัจจุบัน: ใส่ที่อยู่จริง
3. ตั้งค่ารับเงินผ่าน Wise
• เลือกธนาคารที่ต้องการรับเงิน: Wise รองรับ บัญชีรับเงินสกุล USD
• ไปที่บัญชี Wise ของคุณ → เปิดบัญชีรับเงิน USD
• คัดลอก Routing Number และ Account Number
• กลับไปที่ KDP → กรอกข้อมูล
• Bank Location: United States
• Account Holder Name: ใส่ชื่อของคุณ (ตรงกับ Wise)
• Account Type: Checking
• Routing Number: ใส่หมายเลขที่คัดลอกจาก Wise
• Account Number: ใส่หมายเลขบัญชี USD จาก Wise
4. บันทึกข้อมูล



🔹 ขั้นตอนที่ 3: กรอกข้อมูลภาษี (Tax Information Interview)


คนไทยต้องยื่นแบบฟอร์ม W-8BEN เพื่อยืนยันว่าคุณไม่ได้เป็นพลเมืองสหรัฐฯ และไม่ต้องเสียภาษีสหรัฐ 30%

1. ไปที่ “Tax Information” ในบัญชี KDP
2. เลือก “Individual” (บุคคลธรรมดา)
3. กรอกข้อมูล W-8BEN
• ชื่อ-นามสกุล: (ต้องตรงกับบัญชี Wise)
• ประเทศ: Thailand
• U.S. TIN (SSN/ITIN): ไม่ต้องกรอก (เว้นว่างไว้ได้)
• Foreign TIN: ใช้เลขบัตรประชาชนของคุณ
• ที่อยู่: กรอกให้ตรงกับข้อก่อนหน้า
• Treaty benefits: เลือก “Thailand” → Amazon จะหักภาษีที่อัตรา 0% สำหรับค่าลิขสิทธิ์ (Royalties)
4. ลงลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ แล้ว กด Submit



🔹 ขั้นตอนที่ 4: อัปโหลดอีบุ๊คขายบน KDP

1. ไปที่ “Bookshelf” แล้วกด “Create a new eBook”
2. กรอกข้อมูลหนังสือ
• Title: ชื่อเรื่อง
• Author: ชื่อนามปากกา
• Description: คำโปรย
• Keywords & Categories: ใส่คีย์เวิร์ดและเลือกหมวดหมู่
3. อัปโหลดไฟล์
• eBook manuscript: อัปโหลดไฟล์ EPUB
• Cover: อัปโหลดไฟล์ปก JPEG หรือ TIFF
4. กำหนดราคาและสิทธิ์การขาย
• เลือก “Do not enroll in Kindle Unlimited”
• เลือก 70% หรือ 35% royalty ตามราคาที่ตั้ง (มีอัพเดทนโยบายเสมออย่าลืมตรวจสอบ)
• ตั้งราคาขายที่เหมาะสม (USD ควรใกล้เคียงราคาขายในไทย)
5. กด “Publish” และรออนุมัติ (ใช้เวลาประมาณ 24-72 ชั่วโมง) ไวมากขอบอก!


หมายเหตุ:

🔹 การรับเงินจาก Amazon KDP ผ่าน Wise
• Wise จะโอนเงินเข้า บัญชีธนาคารไทย ที่คุณตั้งค่าไว้ใน Wise
• ค่าธรรมเนียมโอนจาก Wise → ธนาคารไทย ประมาณ 70-150 บาท ขึ้นอยู่กับยอดเงิน


0000

หากเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านกันด้วยนะคะ และฝาก

ติดตาม และสนับสนุนผลงานของพี่แมวเทาเท้าฟูได้ที่ลิงก์นี้ มัดรวมไว้ให้แล้วทุกแพลตฟอร์ม!
👉📌 https://linktr.ee/maewtaotaofu

Wednesday, July 23, 2025

เมื่อฉันได้เรียนรู้เรื่อง “Decision-Making Strategies” จาก LinkedIn Learning

Stakeholders in Decisions” และ “Accepting Ambiguity” จาก LinkedIn Learning

สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคน (ไหว้รอบวง) วันนี้ขอฉีกจากงานเขียนอื่นๆที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ฉีกจากชีวิตประจำวันของฉันสักเท่าไหร่ก็คือการทำงานประจำเพื่อเลี้ยงชีพนั่นเอง และในทุกๆเดือนฉันก็จะต้องเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อ Reskill upskill อยู่เสมอ และในวันนี้ก็เป็นโอกาสดี อยากจะมาแชร์ประสบการณ์หลังจากที่ได้เรียนคอร์สใน LinkedIn Learning เกี่ยวกับหัวข้อ “Involving Stakeholders in Decisions” และอีกหัวข้อที่น่าสนใจมากคือ “Accepting Ambiguity” ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ กลยุทธ์การตัดสินใจ (Decision-Making Strategies) โดยตรง และสามารถนำไปใช้ได้จริงในการทำงานของเรา


🎯 Involving Stakeholders: การตัดสินใจที่ไม่ควรทำคนเดียว

สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ การตัดสินใจที่ดีไม่ใช่แค่ “เร็ว” หรือ “เด็ดขาด” แต่ต้อง มีมุมมองรอบด้าน และ ได้รับการสนับสนุนจากผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งการมีส่วนร่วมของ stakeholder ตั้งแต่ต้นจะช่วยให้เรา:

  • มองเห็น ความเสี่ยงและโอกาส ได้เร็วขึ้น
  • ได้รับ การสนับสนุน จากคนที่เกี่ยวข้อง
  • ลดปัญหา “ทำเสร็จแล้วโดนแก้ใหม่หมด” เพราะไม่ได้เข้าใจตรงกันตั้งแต่แรก

หนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยได้มากคือ RACI Matrix ที่ช่วยกำหนดบทบาทของแต่ละคนในกระบวนการตัดสินใจ เช่น ใครเป็นผู้รับผิดชอบ (R), ใครต้องรับผิดชอบสูงสุด (A), ใครให้คำปรึกษา (C), และใครควรรับรู้ (I)

ตัวอย่าง RACI Matrix: โครงการพัฒนาเว็บไซต์องค์กร 

🔍 คำอธิบายตัวย่อ RACI:

  • R (Responsible) – ผู้ที่ลงมือทำงานจริง
  • A (Accountable) – ผู้ที่ต้องรับผิดชอบสูงสุดในงานนั้น (มีเพียงคนเดียว)
  • C (Consulted) – ผู้ที่ให้คำปรึกษาหรือข้อมูล (มีการสื่อสารสองทาง)
  • I (Informed) – ผู้ที่ต้องรับรู้ความคืบหน้า (สื่อสารทางเดียว)

✅ วิธีนำไปใช้:

  1. เริ่มจากลิสต์กิจกรรมหลักของโครงการ
  2. ระบุบทบาทของแต่ละคนในแต่ละกิจกรรม
  3. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแต่ละกิจกรรมมีผู้รับผิดชอบ (R) และผู้รับผิดชอบสูงสุด (A) อย่างชัดเจน
  4. ใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารและติดตามความรับผิดชอบ


🌫️ Accepting Ambiguity: เมื่อความไม่แน่นอนคือเรื่องปกติ

อีกหัวข้อที่น่าสนใจมากคือเรื่อง “Accepting Ambiguity” หรือการยอมรับความไม่แน่นอน ซึ่งในคอร์สได้แบ่งระดับของความไม่แน่นอนออกเป็น 4 แบบ:

  1. Highly Predictable – เรารู้แน่ชัดว่าอะไรจะเกิดขึ้น เช่น งานที่เคยทำซ้ำ ๆ
  2. Distinct Possibilities – มีทางเลือกไม่กี่ทางที่อาจเกิดขึ้น เช่น การวางแผนสำรอง
  3. Spectrum of Outcomes – มีหลายทางที่อาจเกิดขึ้น แต่ยังพอประเมินได้
  4. Complete Unpredictability – ไม่สามารถคาดเดาอนาคตได้เลย เช่น การเปลี่ยนแปลงของตลาด

สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ การเข้าใจระดับของความไม่แน่นอน จะช่วยให้เราวางแผนและตัดสินใจได้ดีขึ้น เช่น ถ้าอยู่ในระดับ 3–4 เราอาจต้องใช้วิธี “ทดลอง–เรียนรู้–ปรับตัว” แทนที่จะวางแผนแบบตายตัว


💡 สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้

  • การตัดสินใจที่ดีต้องมี การมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้อง
  • ต้องรู้จัก ยอมรับความไม่แน่นอน และปรับกลยุทธ์ให้เหมาะกับสถานการณ์
  • เครื่องมืออย่าง RACI Matrix และการประเมินระดับของ ambiguity ช่วยให้เราตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ใครที่กำลังทำโปรเจกต์ใหม่ หรือรู้สึกว่างานที่ทำอยู่มีความไม่แน่นอนสูง ลองนำแนวคิดเหล่านี้ไปใช้ดูนะคะ แล้วคุณจะรู้ว่า “การตัดสินใจที่ดี” ไม่ได้อยู่ที่ใครเก่งที่สุด แต่อยู่ที่ใคร ฟังให้ครบ คิดให้รอบ และยืดหยุ่นได้มากที่สุด 


สองหัวข้อที่กล่าวถึงในบทความนี้ — Involving Stakeholders in Decisions และ Accepting Ambiguity — เป็นส่วนหนึ่งของคอร์สเต็มชื่อ “Decision-Making Strategies”
ผู้บรรยายคือ Mike Figliuolo, Founder and Managing Director ของ thoughtLEADERS, LLC

ไปตามเรียนรู้กันได้😊😊


อ่านบทความอื่นๆ แวะมาหาได้ที่ 🔗รวมบทความ 

Monday, July 21, 2025

✨(TH/EN) Behind the Character: Lady Jinda

How Do You Write Someone Falling in Love Without Repeating What’s Been Done? Jinda Taught Me.

(อ่านภาษาไทยที่นี่ TH)

I didn’t know how to write about love in a way that felt fresh and original—until I met a girl named Jinda.

I created her to be a young woman just beginning to grow, yet I gave her a soul more mature than her age. She’s the only daughter of a prominent provincial governor, raised with the responsibility of taking care of herself and others. Her parents were devoted civil servants, so she wasn’t a pampered child, but one accustomed to chores, duty, and quiet resilience.

When she entered the palace, she brought no servant with her.

She chose instead to stand in humility, with a heart ready to serve Her Majesty with sincerity.

The only thing she couldn’t grow out of—was her innocence in love.

She was seventeen.

She entered the palace with a heart untouched by romance.

Then she met a woman everyone called “The Queen.”

In the novel’s prose, I tell you how she feels.

But in the poems—I let her tell it herself.

She said the Queen’s beauty made her heart tremble.

She said she was overcome by Her gaze—

Uncertain if it was fear of power… or something deeper.

From silken stillness, she emerged with grace untold,
Her radiance bloomed, too vast for hearts to hold.
Enchanted, I gasped—such splendor to obey,—
As trembling longings swelled, I hid the ache away.

Jinda never knew the exact moment she fell in love.

She only knew that…

Each morning she woke up hoping to see Her again.

Each farewell, she carried every glance, every word—playing them over and over in her mind.

And every time the Queen paused in silence… Jinda’s heart raced for no clear reason.

The closeness, the trust the Queen gave her—

It confused her more. The Queen spoke so little,

And yet Jinda felt warmth, and something else—too tender to name.

I never thought that a girl who didn’t even know what love was...

Would become the one to teach me how to write it—

Gently. Uniquely.

Jinda’s love isn’t like those in dramas or films.

There’s no grand confession. No dramatic climax.

It’s a love woven into shared silences,

In soft sighs…

And in the act of allowing oneself to be most vulnerable—in front of someone special.

And that… might be one of the most beautiful kinds of love there is.


🌏อ่านบทความนี้ฉบับภาษาไทย"
เบื้องหลังตัวละคร “จินดา”

✨To Nong Orm — my muse who brought ‘Jinda’ to life not only as a character, but as a reflection of quiet strength and tenderness. Thank you for being there, simply by being you.


Follow her on IG : Orm.kornnaphat

✍️อ่านตอนที่แล้ว: เบื้องหลังตัวละคร "ราชินีอิสราวดี"
Behind the Character: Queen Isarawadee

✍️ไปหน้ารวมเบื้องหลังนิยาย
Behind the books


⚠️ Copying or capturing this page is not allowed.
Book cover

👑 *The Crown Princess*

“If not the daughter of a royal line,
Could I truly claim this queenly role as mine?”


As the first reigning queen of her kingdom,
Isarawadee carries the weight of countless expectations—
and on some days, that weight grows heavier than anyone could ever see.

🛒 Read Free Sample on Amazon

✨(TH/EN) เบื้องหลังตัวละคร “จินดา”

จะเขียนคนตกหลุมรักอย่างไรไม่ให้ซ้ำใคร? จินดาสอนฉันเอง

(EN)

ฉันไม่รู้จะเขียนความรักยังไงให้ไม่ซ้ำใคร
จนกระทั่งฉันได้รู้จักกับเด็กสาวคนหนึ่ง…เธอชื่อจินดา

ฉันตั้งใจสร้างตัวละครนี้ให้เป็นเด็กสาวที่กำลังเติบโต แต่ก็ไม่ลืมจะใส่ความ “โตกว่าวัย” ลงไปในตัวเธอด้วย เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของเจ้าเมืองใหญ่ เติบโตมากับภาระที่ต้องดูแลทั้งตัวเองและผู้อื่น พ่อแม่ของเธอเป็นข้าราชการที่ทุ่มเทให้กับงาน เธอจึงไม่ใช่ “ลูกคุณหนู” ที่มีคนตามใจ หากแต่เป็นเด็กสาวที่คุ้นเคยกับการช่วยงาน การมีหน้าที่ และการเก็บความรู้สึก

เมื่อเข้าวัง เธอไม่มีผู้รับใช้ติดตามไปด้วย
เพราะเธอเลือกจะยืนหยัดด้วยความถ่อมตน
และตั้งใจจะถวายตัวรับใช้องค์ราชินีอย่างจริงใจ

สิ่งเดียวที่เธอยังไม่อาจ “โตกว่าวัย” ได้ ก็คือเรื่องของความรัก

เธออายุสิบเจ็ด
เข้าวังมาพร้อมหัวใจที่ยังไม่รู้จักคำว่ารัก
จนได้พบผู้หญิงคนหนึ่งที่ใคร ๆ เรียกว่า “องค์ราชินี”

ในฉากนิยาย ฉันอาจเล่าว่าเธอรู้สึกยังไง
แต่ในบทกลอน ฉันปล่อยให้เธอเล่าเอง

เธอเล่าว่าความงามขององค์ราชินีทำให้เธอใจสั่น
เธอเล่าว่าเธอแพ้สายพระเนตรของพระองค์
ไม่รู้ว่าเพราะกลัวในพระอำนาจ หรือเพราะบางสิ่งที่ลึกซึ้งยิ่งกว่า

หนึ่งในบทกลอนจากใจพระสนมจินดา (ซึ่งรวมอยู่ในภาคพิสดาร) เขียนไว้ว่า

จากประทับทรงเสด็จย่างพระบาท
งามผุดผาดงามวิลาสอสงไขย
ทรงเสน่ห์สุดสวาทให้ขาดใจ
พลันสั่นไหวข้างในอกข่มอาดูร

จินดาไม่เคยรู้ว่าตัวเองตกหลุมรักตั้งแต่เมื่อไร
เธอแค่รู้ว่า...
ทุกเช้าเธอลุกขึ้นมาพร้อมความหวังว่าจะได้เห็นพระองค์อีก
ทุกครั้งที่ต้องจากกัน เธอจะเก็บทุกคำพูด ทุกแววตาไปทบทวนซ้ำในใจ
และทุกครั้งที่องค์ราชินีเงียบไปหนึ่งอึดใจ…หัวใจของจินดาก็เต้นแรงขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล

ความใกล้ชิดและความไว้วางใจที่องค์ราชินีมอบให้
ทำให้เธอยิ่งสับสน—เพราะพระองค์ตรัสน้อยเหลือเกิน
แต่เธอกลับสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น และความรู้สึกบางอย่างที่ไม่อาจอธิบาย

ฉันไม่เคยคิดว่า เด็กสาวที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า “รักคืออะไร”
จะกลายมาเป็นครูสอนฉันเรื่องความรักในแบบที่อ่อนโยน และไม่ซ้ำใคร

ความรักของจินดาไม่ใช่แบบในซีรีส์
ไม่ใช่ความรักที่มีจุดพีคหรือฉากสารภาพรักหวือหวา
แต่มันคือความรักที่แทรกอยู่ในการนั่งเงียบ ๆ เคียงกัน
ในเสียงถอนหายใจเบา ๆ
และในการยอมให้ตัวเองอ่อนแอที่สุด…ต่อหน้าใครบางคน

และนั่นแหละ คือความรักที่งดงามที่สุดแบบหนึ่ง


🌎Read full English version
Behind the Character: Lady Jinda

✨ ขอบคุณ "น้องออม" ผู้เป็นทั้งแรงบันดาลใจ และเป็นเหมือนกระจกเงาที่สะท้อนความงดงามของ “จินดา” ออกมาได้อย่างอ่อนโยน น้องออมคือผู้จุดประกายให้ตัวละครตัวนี้มีชีวิต…อย่างแท้จริง

ติดตามน้องได้ที่ IG : Orm.kornnaphat

✍️อ่านต่อ: เบื้องหลังตัวละคร "ราชินีอิสราวดี"
Behind the Character: Queen Isarawadee

✍️ไปหน้ารวมเบื้องหลังนิยาย
Behind the books


⚠️ Copying or capturing this page is not allowed.

🎉All time Popular Posts✨