Wednesday, July 23, 2025

เมื่อฉันได้เรียนรู้เรื่อง “Decision-Making Strategies” จาก LinkedIn Learning

Stakeholders in Decisions” และ “Accepting Ambiguity” จาก LinkedIn Learning

สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคน (ไหว้รอบวง) วันนี้ขอฉีกจากงานเขียนอื่นๆที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ฉีกจากชีวิตประจำวันของฉันสักเท่าไหร่ก็คือการทำงานประจำเพื่อเลี้ยงชีพนั่นเอง และในทุกๆเดือนฉันก็จะต้องเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อ Reskill upskill อยู่เสมอ และในวันนี้ก็เป็นโอกาสดี อยากจะมาแชร์ประสบการณ์หลังจากที่ได้เรียนคอร์สใน LinkedIn Learning เกี่ยวกับหัวข้อ “Involving Stakeholders in Decisions” และอีกหัวข้อที่น่าสนใจมากคือ “Accepting Ambiguity” ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ กลยุทธ์การตัดสินใจ (Decision-Making Strategies) โดยตรง และสามารถนำไปใช้ได้จริงในการทำงานของเรา


🎯 Involving Stakeholders: การตัดสินใจที่ไม่ควรทำคนเดียว

สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ การตัดสินใจที่ดีไม่ใช่แค่ “เร็ว” หรือ “เด็ดขาด” แต่ต้อง มีมุมมองรอบด้าน และ ได้รับการสนับสนุนจากผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งการมีส่วนร่วมของ stakeholder ตั้งแต่ต้นจะช่วยให้เรา:

  • มองเห็น ความเสี่ยงและโอกาส ได้เร็วขึ้น
  • ได้รับ การสนับสนุน จากคนที่เกี่ยวข้อง
  • ลดปัญหา “ทำเสร็จแล้วโดนแก้ใหม่หมด” เพราะไม่ได้เข้าใจตรงกันตั้งแต่แรก

หนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยได้มากคือ RACI Matrix ที่ช่วยกำหนดบทบาทของแต่ละคนในกระบวนการตัดสินใจ เช่น ใครเป็นผู้รับผิดชอบ (R), ใครต้องรับผิดชอบสูงสุด (A), ใครให้คำปรึกษา (C), และใครควรรับรู้ (I)

ตัวอย่าง RACI Matrix: โครงการพัฒนาเว็บไซต์องค์กร 

🔍 คำอธิบายตัวย่อ RACI:

  • R (Responsible) – ผู้ที่ลงมือทำงานจริง
  • A (Accountable) – ผู้ที่ต้องรับผิดชอบสูงสุดในงานนั้น (มีเพียงคนเดียว)
  • C (Consulted) – ผู้ที่ให้คำปรึกษาหรือข้อมูล (มีการสื่อสารสองทาง)
  • I (Informed) – ผู้ที่ต้องรับรู้ความคืบหน้า (สื่อสารทางเดียว)

✅ วิธีนำไปใช้:

  1. เริ่มจากลิสต์กิจกรรมหลักของโครงการ
  2. ระบุบทบาทของแต่ละคนในแต่ละกิจกรรม
  3. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแต่ละกิจกรรมมีผู้รับผิดชอบ (R) และผู้รับผิดชอบสูงสุด (A) อย่างชัดเจน
  4. ใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารและติดตามความรับผิดชอบ


🌫️ Accepting Ambiguity: เมื่อความไม่แน่นอนคือเรื่องปกติ

อีกหัวข้อที่น่าสนใจมากคือเรื่อง “Accepting Ambiguity” หรือการยอมรับความไม่แน่นอน ซึ่งในคอร์สได้แบ่งระดับของความไม่แน่นอนออกเป็น 4 แบบ:

  1. Highly Predictable – เรารู้แน่ชัดว่าอะไรจะเกิดขึ้น เช่น งานที่เคยทำซ้ำ ๆ
  2. Distinct Possibilities – มีทางเลือกไม่กี่ทางที่อาจเกิดขึ้น เช่น การวางแผนสำรอง
  3. Spectrum of Outcomes – มีหลายทางที่อาจเกิดขึ้น แต่ยังพอประเมินได้
  4. Complete Unpredictability – ไม่สามารถคาดเดาอนาคตได้เลย เช่น การเปลี่ยนแปลงของตลาด

สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ การเข้าใจระดับของความไม่แน่นอน จะช่วยให้เราวางแผนและตัดสินใจได้ดีขึ้น เช่น ถ้าอยู่ในระดับ 3–4 เราอาจต้องใช้วิธี “ทดลอง–เรียนรู้–ปรับตัว” แทนที่จะวางแผนแบบตายตัว


💡 สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้

  • การตัดสินใจที่ดีต้องมี การมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้อง
  • ต้องรู้จัก ยอมรับความไม่แน่นอน และปรับกลยุทธ์ให้เหมาะกับสถานการณ์
  • เครื่องมืออย่าง RACI Matrix และการประเมินระดับของ ambiguity ช่วยให้เราตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ใครที่กำลังทำโปรเจกต์ใหม่ หรือรู้สึกว่างานที่ทำอยู่มีความไม่แน่นอนสูง ลองนำแนวคิดเหล่านี้ไปใช้ดูนะคะ แล้วคุณจะรู้ว่า “การตัดสินใจที่ดี” ไม่ได้อยู่ที่ใครเก่งที่สุด แต่อยู่ที่ใคร ฟังให้ครบ คิดให้รอบ และยืดหยุ่นได้มากที่สุด 


สองหัวข้อที่กล่าวถึงในบทความนี้ — Involving Stakeholders in Decisions และ Accepting Ambiguity — เป็นส่วนหนึ่งของคอร์สเต็มชื่อ “Decision-Making Strategies”
ผู้บรรยายคือ Mike Figliuolo, Founder and Managing Director ของ thoughtLEADERS, LLC

ไปตามเรียนรู้กันได้😊😊


อ่านบทความอื่นๆ แวะมาหาได้ที่ 🔗รวมบทความ 

Quote

“No one is perfect from the start. But you will learn… and you will be a great queen if you trust in yourself.” ~The Former King~ (The Crown Princess - Chapter 5)

📚คลังบทความสาระ & แรงบันดาลใจ สำหรับนักเขียน นิยาย อีบุ๊ค และการเติบโตบนโลกออนไลน์